เชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยิน “การติดเชื้อในกระแสเลือด” กันมาบ้างใช่ไหมล่ะครับ อยากจะบอกว่า สำหรับฝุ่น pm2.5 ก็สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้เช่นกันครับ
และเมื่อสิ่งสกปรกเข้าสู่กระแสเลือดของเรา คงไม่ต้องสืบเลยล่ะครับว่ามันจะทำอันตรายได้มากขนาดไหน สำหรับใครที่ยังมองไม่เห็นภาพเราไปดูต่อกันที่ด้านล่างครับ

เปรียบเทียบฝุ่น pm2.5 กับเส้นผมของเรา
ฝุ่น PM2.5 มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (μm) ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กมากเมื่อเทียบกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเราครับ เดี๋ยวเราลองเอามาเทียบกับเส้นผม และเซลล์เลือดแดงดูครับ
- เส้นผมมนุษย์: เส้นผมมนุษย์มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 70-100 ไมครอน ซึ่งหมายความว่าฝุ่น PM2.5 เล็กกว่าความกว้างของเส้นผมมากถึง 30-40 เท่า
- เซลล์เลือดแดง: เซลล์เลือดแดงในร่างกายมนุษย์มีขนาดประมาณ 6-8 ไมครอน ซึ่งฝุ่น PM2.5 จะเล็กกว่าประมาณ 2-3 เท่า
- เส้นผม 1 เส้น: ถ้าเรามองที่ขนาดของเส้นผม 1 เส้น ฝุ่น PM2.5 จะมีขนาดเพียงประมาณ 1 ใน 30 ของเส้นผมมนุษย์
ขนาดเส้นผมถ้าเล็กลงสัก 5 เท่าก็แทบจะมองไม่เห็นแล้วนะครับ นี่เล็กลงกว่า 30-40 เท่า เรียกได้ว่า “สามารถแทรกซึมเข้าทุกพื้นที่ของร่างกาย” เลยล่ะครับ ไม่เพียงแต่ไปถึงปอด แต่ยังสามารถเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปยังอวัยวะต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาทีเลยครับ
หากฝุ่น pm2.5 เข้าสู่กระแสเลือดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?
- การอักเสบในร่างกาย: ฝุ่น PM2.5 สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้เกิดการอักเสบ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อหลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองด้วยการปล่อยสารเคมีที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย การอักเสบนี้สามารถส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, หรือแม้แต่การเกิดมะเร็ง
- การเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด: เมื่อฝุ่น PM2.5 เข้าสู่กระแสเลือด มันสามารถทำให้เกิดการตีบแคบของหลอดเลือด ซึ่งทำให้เลือดไหลเวียนได้ยากขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง, และภาวะความดันโลหิตสูง
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน: การสัมผัสกับฝุ่น PM2.5 ระยะยาวอาจทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของอินซูลินในร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน
- ผลกระทบต่อระบบประสาท: การที่ฝุ่น PM2.5 สามารถเข้าสู่กระแสเลือดและไปถึงสมองได้ อาจทำให้เกิดการอักเสบในสมอง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภาวะทางจิต เช่น ความวิตกกังวล, ภาวะซึมเศร้า, และอาจมีความเสี่ยงต่อโรคความจำเสื่อม เช่น โรคอัลไซเมอร์
- การเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง: การที่สารพิษจากฝุ่น PM2.5 สามารถเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปทั่วร่างกาย อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อดีเอ็นเอ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด, ตับ, หรือแม้แต่ในกระเพาะอาหาร
โรคร้ายแรงมาเพียบครับ ไม่ว่าจะเป็นโรคที่ยังไม่มีการรักษาอย่างมะเร็ง หรือจะเป็นโรคที่รักษายากอย่างเบาหวาน เจ้าตัวฝุ่น pm2.5 ก็จัดมาให้เราแบบที่เราไม่ต้องการเลยล่ะครับ เพราะฉะนั้นอย่าลืมป้องกันตัวเอง และใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ
วิธีป้องกันฝุ่นง่ายๆที่บ้าน
- ใช้เครื่องกรองอากาศ (Air Purifier): เครื่องกรองอากาศที่มีฟิลเตอร์ HEPA (High-Efficiency Particulate Air) ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ได้ดี ควรวางเครื่องกรองในห้องที่ใช้บ่อย เช่น ห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น
- ปิดประตูและหน้าต่าง: เมื่อค่าฝุ่นสูง ควรปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในบ้าน ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้ม่านหรือผ้าม่านหนาเพื่อช่วยกรองฝุ่น
- หมั่นทำความสะอาดบ้าน: ควรทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ เช่น พื้น, โต๊ะ, และหน้าต่างเป็นประจำด้วยผ้าชุบน้ำ เพื่อไม่ให้ฝุ่นสะสมในบ้าน และไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย
- ติดตั้งแผ่นกรองฝุ่นในเครื่องปรับอากาศ: หากใช้เครื่องปรับอากาศในบ้าน ควรติดตั้งแผ่นกรองอากาศ (filter) ที่มีความสามารถในการกรองฝุ่น PM2.5 เพื่อช่วยทำให้อากาศในห้องสะอาดขึ้น
- หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกในวันที่ฝุ่นสูง: หากสามารถหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกในวันที่มีค่าฝุ่นสูงได้จะดีมาก ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้าน ควรสวมหน้ากาก N95 เพื่อป้องกันการหายใจฝุ่น
- เพิ่มความชื้นในอากาศ: การใช้เครื่องเพิ่มความชื้น (humidifier) หรือวางภาชนะน้ำในห้องช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ และช่วยลดการฟุ้งของฝุ่น
- ปลูกต้นไม้ในบ้าน: ต้นไม้บางชนิดสามารถช่วยปรับอากาศในบ้านได้ เช่น ไม้ประดับที่สามารถช่วยดูดซับสารพิษในอากาศและเพิ่มความชื้นในบ้าน
สำหรับวิธีที่ง่ายที่สุด และไม่ต้องเปลืองตังมาก คงจะหนีไม่พ้นการปลูกต้นไม้ และการทำความสะอาดบ้านบ่อยๆครับ หวังว่าทุกคนจะสุขภาพร่างกายแข็งแรงกันนะครับ
ขายของนิดหน่อยครับ
ก่อนจากกันไป สำหรับใครที่สนใจซื้อหวย หรือลงเดิมพันในรูปแบบต่างๆ เราเป็นเว็บไซต์เดิมพันถูกกฎหมาย มีการรับรองจากคณะกรรมการประเทศอังกฤษ หน่วยงาน AGA ของประเทศอเมริกา และ PAGCOR จากรัฐบาลประเทศฟิลิปปินส์ครับ